เกือบ 1 อาทิตย์แล้วที่เราได้ออกไปชวนเด็กๆและคนในชุมชนเล่นแบดอีกครั้ง จุดประสงค์หลักคือการกระตุ้นให้คนกลับมาเล่นกีฬากันเพิ่มขึ้นอีก สำหรับปีก่อนๆที่ผ่านมาแล้วนั้น เราได้สร้างเป้าหมายให้กับเด็กๆโดยการจัดการแข่งขันแบดในชุมชนขึ้น ซึ่งได้ทำติดต่อมา 2 ปี การแข่งขันครั้งแรก ช่วงเดือนมีนาคม 2553 และครั้งที่ 2 ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2554
แต่สำหรับปี 2555 นี้นั้น เราไม่สามารถจัดแข่งขันขึ้นมาได้ ด้วยสาเหตุหลายประการ ไม่ว่าปัญหาเรื่องงาน ปัญหาส่วนตัว และปัญหากับคนในชุมชนบางกลุ่ม ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องราวปัญหาที่ต่อเนื่องมานานแล้ว และปัญหาสำคัญที่สุด ที่ส่งผลให้เราจัดการแข่งกันในปีนี้ไม่ได้ คือ การที่คนส่วนใหญ่ในชุมชนไม่ใส่ใจไม่เห็นความสำคัญของเด็กๆเลยแม้แต่น้อย
สำหรับชุมชนนี้ เราก็ได้อยู่ได้อาศัยมาเกือบ 20 ปีเลยทีเดียว พบเห็นอะไรมาก็ไม่น้อยเลย ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่สนใจแต่การมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ถ้าไม่คิดเรื่องทำมาหาเงิน ก็จะรวมกลุ่มกันสรวลเสเฮฮาหาความสุขเท่านั้น
ในขณะที่ส่วนน้อยนั้น ก็มีผู้นำบางคนที่มีความเสียสละ ได้อาสาออกมาทำงานเพื่อพัฒนาชุมชนของตัวเอง พัฒนา"บ้าน"ของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่การพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้นก็ตามที แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีใครเลย
และเมื่อวันเวลาผ่านเลยไป ผู้นำชุมชนหลายๆคนนั้นก็ค่อยลดหายลงไปทีละคนสองคน ด้วยถึงวันสิ้นอายุขัยบ้าง เจ็บป่วยไม่สบายสุขภาพไม่เอื้ออำนวบบ้าง บางคนก็จำต้องอพยพโยกย้ายที่อยู่อาศัยออกไปจากชุมชน จนทุกวันนี้นั้น ในชุมชนก็เหลือผู้นำจริงๆแค่ไม่กี่คนเท่านั้น จำนวนผลงานต่างๆก็ลดน้อยถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะเดียวกันนั้น ในชุมชนก็ไม่ได้มีผู้นำรุ่นใหม่ขึ้นมาสานงานต่อเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่ผู้ที่ขึ้นมาเพราะอยากจะได้ อยากจะเป็น อยากมีตำแหน่ง อยากมีอำนาจ แต่ไม่มีใครเลยที่"อยากจะทำงาน" หรือ "อยากที่จะพัฒนาชุมชน"ของตัวเองจริงๆเลย ซึ่งเราก็ดูได้ไม่ยากนักหรอก ลองถามดูสิว่า "เขาจะทำอะไร" หรือ "เขามีแผนพัฒนาชุมชนอะไร" คำตอบจากคนที่ไม่ได้คิดที่จะพัฒนาชุมชนจริงๆเหล่านี้จะคำตอบอยู่แค่ 2 แนว คือ "ไม่มีเวลา" และ "ไม่มีงบประมาณ"
ฟังแล้วรู้สึกเหนื่อยใจกับคนพวกนี้จังเลย ขอโทษเถอะ จริงๆเราอยากรู้ว่าพวกท่านกำลังจะทำอะไรหรือมีแผนที่จะทำอะไร แล้วเราค่อยมาหาทางทำงานร่วมกัน แต่ใจคอพวกท่านนี้จะทำอะไรนิดๆหน่อยๆก็ต้งมีงบประมาณตลอด ไม่มีเงินก็ไม่มีเวลาให้ เพราะเสียเวลาทำมาหากินสินะ อยากจะถามจริงๆเลยกับพวกที่เสนอหน้าเข้ามาทำงานชุมชนเนี่ย ว่า"ถ้าพวกคุณคิดจะทำมาหากิน เราเสนอหน้าออกมาทำงานชุมชนทำพระแสงอันใด(วะ)ครับ" หรือคิดว่าการที่เสนอหน้าออกมาทำงานชุมชนแล้ว ท่านจะได้งบนั้นงบนี้มาให้พวกท่านจับจ่ายใช้สอยกันเล่นอย่างสบายมือเลยสินะ เหอะ!!! ขอโทษเถอะ งานของตัวเอง จะคิดจะทำอะไรบ้างยังตอบไม่ได้ แล้วใครที่ไหนจะหาการสนับสนุนมาให้พวกท่านได้หละ(วะ)ครับ
นี่ขนาดคนที่อาสาขึ้นมารับตำแหน่งที่ต้องทำงานชุมชนในปัจจุบันนี้ยังเป็นซะขนาดนี้ คงไม่ต้องเอ่ยถึงเหล่าชาวบ้านตาสีตาสาในชุมชนหรอกมั้งครับ ว่าพวกเขาเหล่านั้น คิดใส่ใจแต่"ตนเอง" "ตัวเอง" แค่ไหน คิดแต่จะ"ทำมาหาเงิน" อย่างไร แต่เอาแต่ "หาความสุขใส่ตัว" ประมาณไหน ฉะนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาใครที่จะใส่ใจต่อคนอื่นบ้าง จะคุยกับใครที่ใส่ใจชุมชนบ้าง น้อยมาก จะมีก็แต่ผู้นำชุมชนรุ่นเก่าๆเพียงไม่กี่ท่านเท่านั้น ที่พอจะคุย"ภาษาเดียวกัน"ได้รู้เรื่อง เหนื่อยครับ เหนื่อยมาก....555
ครับ ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แค่การที่จะให้คนในชุมชน มองดูชุมชนของตัวเองในปัจจุบันยังยากเลย นับประสาอะไรจะให้พวกเรามองชุมชนของเขาในอนาคตได้ โดยเฉพาะพวกเด็กๆที่อยู่ในชุมชนนั้นยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ดังนั้น การจัดงานหรือจัดกิจกรรมต่างๆให้เด็กในชุมชนที่ผ่านมานั้น แล้วไม่้มีใครมาสนใจ ไม่มีใครมาใส่ใจช่วยเลยนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยเลย
แต่สิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในชุมชนนี้ คือการได้ทำให้เด็กได้เล่น ได้สนุก ได้แสดงออก ได้แสดงความสามารถได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น สิ่งที่ผมทำคือ การพยายามเข้าไปชักชวนให้เด็กๆ ได้เล่น ได้แสดงออกในสิ่งที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต และสร้างตัวกระตุ้นหรือเป้าหมายให้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ดำเนินการต่อไปเองโดยผมไม่ต้องไปนำทุกครั้งทุกวันอยู่อย่างนี้
แต่จะมีใครเข้าใจบ้างหละน้อ
แต่สิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในชุมชนนี้ คือการได้ทำให้เด็กได้เล่น ได้สนุก ได้แสดงออก ได้แสดงความสามารถได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น สิ่งที่ผมทำคือ การพยายามเข้าไปชักชวนให้เด็กๆ ได้เล่น ได้แสดงออกในสิ่งที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต และสร้างตัวกระตุ้นหรือเป้าหมายให้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ดำเนินการต่อไปเองโดยผมไม่ต้องไปนำทุกครั้งทุกวันอยู่อย่างนี้
แต่จะมีใครเข้าใจบ้างหละน้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น