2555-08-31

550831 วันพักเหนื่อย

  กลับจากการอบรมเมื่อวันที่ 29-30 ส.ค. 55 ที่ผ่านมา  เหนื่อยมาก  เล่นเอาเกือบเป็นไข้เลย  การอบรมครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนที่เป็นอิสระ" ตามพรบ.หลักประกันสุขภาำพ มาตรา 50(5)  สำหรับเนื้อหาการอบรมก็ไม่ค่อยหนักเท่าไหร่  มีช่วงให้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันเป็นระยะๆ   แต่ที่หนักหนาสาหัสกลับเป็นที่อุณภูมิของห้องเสียมากกว่า   ที่นั่นเป็นแอร์ให้อุณภูมิต่ำ  รู้สึกหนาวมาก

   โรงแรมเซนทรา  เป็นโรงแรมที่อยู่ศูนย์ราชการของกรุงเทพฯ  บริการดี  ห้องน้ำสะอาด อาหารก็ใช้ได้ยู่นะ เสียอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องอุณหภูมินี่หละ  เพราะที่ห้องประชุมของโรงแรมเซนทราในระบบแอร์ร่วมกับทางศูนย์ราชการหละมั้ง  ถึงได้ควบคุมอุณหภูมิได้ยาก   แต่ว่าทางพนักงานบริการก็พยายามที่จะช่วยดูแลปัญหาให้อยู่เหมือนกัน   เพราะเห็นได้ว่ามีการมาสอบถามถึงสภาพอุณหมิอยู่เป็นระยะๆ  ก็คิดว่าทางนั้นก็พยายามจะแก้ไขให้อยู่หละนะ

   จบเรื่องหนาวๆเย็นๆไปเสียที  กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า  ในงานสัมมนาครั้งนี้ได้  สำหรับสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ได้รับมา  คือการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่เคยทำงานรับร้องเรียนมาก่อน (ตั้งเป็นศูนย์รับเรื่องร้องเรียนมาก่อน)  ซึ่งตัวแทนจากแต่ละศูนย์แต่ละสถานที่นั้น  ก็ได้มาเล่าถึงเหตุการณ์ปัญหาต่างๆที่ตนเองเคยประสบมา  และมียู่หลายๆเรื่องเหมือนกัน  ที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น  มีตลกขบขำแทรกอยู่บ้า่งตามประสาคนเล่า  แต่เราก็เข้าใจได้ดีว่า  ยามที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆนั้น  คนรับเรื่องก้คงตลกไม่ออกเหมือนกันแน่ๆ   เขาทุกข์ตามประสาคนที่เดือดร้อน  เราก็ย่อมอยากจะช่วยเหลือเป็นธรรมดา

   นอกจากนี้ยังได้ฟังประสบการณ์ในการรับเรื่องของผู้ที่ทำอยู่ในส่วนของ call center 1330 ด้วย  ซึ่งเขาได้ยกตัวอย่างในการรับเรื่องร้องเรียน  โดยเขาจะถามเกี่ยวกับรายละเอียดจากผู้ที่ร้องไว้เยอะมาก  เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนที่สุด  และสะดวกต่อการติดตามตรวจสอบข้อมูลภายหลัง



   และสิ่งที่เห็นจากเวทีอบรมนี้ คือเรื่องจุดอ่อนของภาคประชาชน  ที่แต่ละคนต่างทำงานกันเยอะแยะมากมายมาก  แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้  ไม่มีใครเห็น  นอกจากคนที่ร่วมทำงาน  คนที่อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงาน การประสาสัมพันธ์น้อย  สื่อหลักไม่เล่นไม่ตาม  ในขณะที่แกนนำส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งแต่ละทำงาน ทำงาน และทำงาน  เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆในชุมชนในสังคมเท่านั้น  การบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆมีน้อยมาก  เมื่อเทียบกับจำนวนผลงานที่แต่ละคนได้ทำมา  หลายๆเคสหลายๆกรณีนั้น  สมควรที่จะได้รับการบันทึกและยกขึ้นเป็นกรณีศึกษาเอาไว้ได้  แต่เรื่องราวที่สำคัญๆส่วนใหญ่ก็ล่องลอยสายไปกับสายลมแห่งกาลเวลา


   สุดท้ายเราก็กลับมามองย้อนดูที่ตัวเราเองว่า  แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง   กับศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของเราที่กำลังจะเปิด  และกับงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็นงานในชุมชน  หรืองานสภาของจังหวัด   พาลคิดโยงไปถึงเรีื่องข้อมูล  และสื่อนำเสนอต่อสาธารณะ

   หลังๆชักจะเรื่อยเปื่อยแล้วสิ  ค่อยๆำทำไปก็แล้วกัน

2555-08-27

550827 ลองออกแบบโครงสร้าง "แผนงาน" ไว้เล่นๆ



   ด้วยเพราะทุกวันนี้  งานที่เกี่ยวข้องอยู่  ยังเป็นงานที่ไม่ค่อยเป็นระบบระเบียบอะไรเลย  จนบางครั้งบางทีก็อดคิดเล่นๆไม่ได้ว่า  ถ้าเกิดจะมีการออกแบบโครงสร้างของ "แผนการทำงาน" เอาไว้บ้าง  มันจะมีหน้าตา่ออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

   เพราะในมุมมองของเราแล้ว  คิดว่าถ้าเรา "วาดแบบ  วางโครง"  เอาไว้ให้ดีก่อน  จากนั้นค่อยไปตามหา  "เนื้อหา/ข้อมูล"  มาใส่ตามโครงตามกรอบที่วางเอาไว้  น่าจะง่าย สะดวก และรวดเร็วกว่า

   ในขณะที่ ทาง"พี่สาว"ของเรา  กลับมองถึงเรื่องการที่จะได้ "เนื้อหา/ข้อมูล" จากพื้นที่ขึ้นมาก่อน  จากนั้นค่อยมาดู  แล้ว"คัดเลือก"  ข้อมูลสำคัญ  ที่จำเป็นต้องนำไปใช้ออกมา

   ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว  เรากลับเห็นว่า  หากทำด้วยแนวทางนั้น  "ข้อมูล"  ที่จะได้มา  ก็จะสะเปะสะปะ  มัวกันไปหมด  แล้วหากได้ข้อมูลมาจากหลายๆแห่ง  และเริ่มมีข้อมูลจำนวนมากขึ้น  ก็จะเป็นการยากในการคัดกรองข้อมูลที่จำเป็นออกมาจากข้อมูลดิบที่มีจำนวนมากมายนั้น

   แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นว่า  ทาง"พี่สาว"นั้น  กลับให้ความสำคัญกับเรื่อง"การติดต่อประสานงาน"  และสร้าง "สะพาน" ในการส่งต่อข้อมูลระหว่างทีมด้วยกัน  ซึ่งการทำเช่นนั้น  ก็ได้เกิดเป็นผลที่ชัดเจนกว่า  คือ  ได้"กลุ่มเครือข่าย"ทีมงานที่ใหญ่มาก  แต่สำหรับเนื้อหาสาระของ "ข้อมูล" นั้น  ก้ได้ตามมาเพียงบางส่วน

   ในขณะที่เราเองกลับประสบปัญหามากกว่า  เพราะไม่สามารถหาใครมาเป็นหลัก  เพื่อช่วยดู "แบบ แผน  โครงสร้าง"  ที่เราคิดจะวางเอาไว้ได้เลย  โดยเวลาก็ล่วงมาได้ 4-5 เดือนแล้ว  แต่กลับเป็นว่า  "งานในรูปแบบของเรา"  กลับไม่ได้เกิดเป็นผลที่ชัด  จนใครสามารถมองเห็นได้เลย

   ดังนั้น  เห็นทีว่าเราคงจะต้องมาร่างแบบของเราคนเดียวแล้วหละ  แล้วค่อยเดินงานตาม "รูปแบบของเรา"เองไปก่อน

2555-08-17

550817 เรื่อง...ในวันพรุ่งนี้

    และแล้วเวทีประชาคมของโครงการ SML ก็เปิดได้เสียทีสินะ  วันพรุ่งนี้แล้ว  ไม่รู้จะเป็นยังไงกันบ้าง  คนที่เคยคุยตกลงกันไว้  แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆก็กลับทำไปอีกอย่างหนึ่ง  ท้ายสุดก็กลายเป็นเครื่องมือให้นักการเมืิองใช้หาเสียงอยู่ดี  ไม่รู้อะไรกันนักหนาเนี่ย  ช่างเถอะ  เรื่องของคนอื่น  ปล่อยไป



   วันนี้ก็ได้คุยกับน้งๆในชุมชนอีกกลุ่มหนึ่ง  ที่เข้ามายืมไม้แบดไปเล่น  ก็ได้ชวนพูดชวนได้นิดๆหน่อย  พอจะได้เรื่องได้ราวอยู่บ้างหละ  ว่าต่อไปจะให้พวกเขารวมกลุ่ดูแลกันเอง  ในการเล่นกีฬา  ในการยืมอุปกรณ์  จะให้ทำทะเบียนผู้เล่นด้วย  แต่จะเก็บค่าเล่นคนละ บาทสองบาทหรือเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่พวกเขาเลย  วาดแผนไว้ว่า  จะให้เด็กๆถือเงินกันเองด้วย  คืนแค่อุปกรณ์ที่เราให้ยืมไป  กับสมุดลงทะเบียน  แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า  ถ้าทำได้ก็จะทำดูอยู่  ถ้าเขาทำได้ถึง 3 เดือน  ก็น่าจะหาทางจัดแข่งให้ซักครั้ง  ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงหรอกนะ  ลองดูลองให้ทำไปละกัน  ผลจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ

2555-08-11

550811 คิดถึงเรื่องเก่าๆ

วันนี้ทางกรรมการชุมชนก็เตรียมจัดวันแม่ในชุมชนขึ้น  เ้ห็นแล้วก็พาลนึกถึงวันเก่าๆ  งานวันแม่ในชุมชนปีก่อนๆที่ผ่านมา  พลอยนึกย้อนไปถึงเรื่งราวที่เคยได้ทำ  ห้องสมุดเอย  แข่งแบดในชุมชนเอย   และอื่นๆอีกมากมาย

ทั้งงานนอกชุมชนที่เคยได้ไปร่วมไปช่วยในหลายปีมานี้  ไม่ว่าจะช่วงรณรงค์  ช่วงน้ำท่วม  การช่วงหลังน้ำท่วม  อบรมบ้าง  สัมมนาบ้าง  ลงพื้นที่ช่วยงานช่วยคนบ้าง   สุดท้ายแล้วก็ไม่เหลืออะไรเลย  นอกจากร่องรอยความทรงจำ  พร้อมภาพถ่ายในอดีต

มีหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เพียรพยายามจะทำ  บางอย่างไม่สำเร็จ  บางอย่างก็สำเร็จ  แต่ไม่บรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้ทั้งหมด  จนหลายๆครั้งที่ได้มานั่งทบทวนตัวเอง  แล้วก็มองย้อนกลับไป  เห็นสิ่งต่างๆที่ได้ทำมากมาย  แต่สุดท้ายกลับไม่เหลืออะไรไว้สานต่อในปัจจุบันเลย  ทำให้ท้อแท้  อ่อนล้าจนหมดเรี่ยวแรง  ต้องแอบหลบไปพักฟื้นจิตใจสักหลายวัน  ช่วงเวลานั้น  ไม่รับงาน  ไม่ติดต่อใคร  ออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะบ้าง  เดินไปตามทางเท้าริมถนนบ้าง  บางทีก้นั่งรถเมล์วนไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย  เพื่อมองดูผู้คน  มองดูสังคม  ดูคนที่ดีกว่าเรา  ดูคนที่แย่กว่าเรา  ดูคนรวย  ดูคนจน  ดูเด็ก  ดูคนแก่  เออ ...  จะว่าไปแล้วเราไม่ยักกะเคยได้ดูคนตายแฮะ  555

พอได้พบได้เห็นสิ่งๆต่างๆมากมาย  แรงใจถึงค่อยฟื้นกลับคืนมา  แล้วก็กลับมาทำงานต่อ  ทำงานอะไรบางอย่าง  ที่เราคิดว่า  มันอาจจะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นในวันใดวันหนึ่ง  แต่วันไหนนั้นเราก้ไม่รู้  รู้แต่ว่าเราฝันถึง  เราหวังเอาไว้  และเราก็ได้แต่เดินไปบนเส้นทางที่เราหวัง  ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าจะเจออะไรบนเส้นทางเหล่านี้บ้างก็ตามที

2555-08-10

550810 บ่นเรื่อยเปื่อย

วันนี้เป็นวันที่วุ่นวายพอสมควร  เสร็จเรื่องการนำข้อมูลลงเว็บไซต์ไปละ  วันนี้วันสุดท้ายที่จะใช้ห้องที่ชั้น 5 ของนิด้า  หลังจากนี้จะย้ายไปที่ ชั้น 4  ซึ่งก้คงราวๆสัปดาห์หน้า  วันนี้เลยช่วยกันเก็บของ  แล้วก็พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของนิด้าไปนิดๆหน่อยๆ

พกลับมาบ้าน  ไม่รู้ทมี่บ้านเกิดอะไรขึ้น  วันนี้เขาย้ายข้าวย้ายของกันเสียหมด  เลยต้องมาจัดเรียงใหม่อีก  หุหุ  วุ่นวายนิดหน่อย  แต่ก้รู้สึกว่ามันโล่งโปร่ง และสะอาดขึ้นเป็นกองเลย

ส่วนทางอีกบ้านก็มีงานมาให้ช่วยทำ  ซึ่งก็ใช้เวลาีอีกพักใหญ่จึงเสร็จลุล่วงไป   วันนี้ก็ไม่ได้ตีแบดอีกตามเคย  ช่วงนี้เด็กๆก็เลยวิ่งเล่นกันไปตามประสา  ไม่มีใครมานำเด็กๆเล่นกีฬาแทนเลย  มองแล้วก็เหนื่อยใจ

แล้วหลังจากนี้เราจะทำอะไรกันนี้นะ  กรรมการชุมชนก็เตรียมจะจัดงาน  นี่อีกไม่กี่วันก็ถึงวันแม่ละ  ก็จัดกันแค่ขำๆหละมั้ง  555   เพราะจัดเสร็จ  จบงานก็คือจบ  จบแค่ได้จัด  ไม่ได้มีอะไรต่อเนื่องไป  เห็นแล้วก็ท้อใจ  จะพูดอะไรจะคุยอะไรกับใครก็ใช่หน้าที่  เพราะรู้แค่ทฤษฎี  รู้แต่หลักการวิชาการ  แต่ดันไม่รู้จักคน  ไม่รู้จักโลกรอบๆตัวเลย  สังคมของผู้ใหญ่นี่เป็นอะไรที่เข้าใจยากมากจริงๆ

สุดท้ายเรื่องข้อมูล  ก็ไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปทางไหนยังไง  ว่าจะลองทำบล็อกมาไว้อัพข้อมูลเอง น่าจะดีกว่า  ประมาณว่า ผู้ติดตามการดำเนินงานของสภากรุงเทพฯ หรืออะไรประมาณนี้  ก็ค่อยว่ากันไป


เฮ้อ..อาเซียนก็ใกล้เข้ามา  ผู้ว่าก็ใกล้จัเลือกตั้งใหม่  แล้วไหนจะผู้ว่าเขตที่จะเปลี่ยนเป็นนครบาลอีก  อะไรมากมายกันนะ ชีวิตนี้   สุดท้ายนี้  เราจะทำอะไรกันดี