วันนี้รับหน้าที่เป็นแมสเซนเจอร์ รับส่งเอกสาร เริ่มด้วยไปรับเอกสารที่นิด้า จากนั้นไปส่งผู้ว่าที่ กทม. (แถวๆเสาชิงช้า) จากนั้นก็ไปส่งที่โรงพยาบาลรามาี อีกที่หนึ่ง จากนั้นก็เป็นงานส่วนตัวที่ต้องเอาเอกสารสำเนาไปส่งมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ใกล้ๆอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นก็ขึ้นรถเมล์ไปทางลาดพร้าว มุ่งหน้าไปที่เดอะมอลล์บางกะปิ เพื่ิอไปจ่ายค่าโทรศัพท์ที่ลืมจ่ายมาเกือบ 2 เดือนละ
ออกบ้านตั้งแต่ 9 โมงเช้า กลับเข้าชุมชนอีกทีก็เกือบ 4 โมงเย็นละ ชีวิตวันนี้ ใช้เวลาอยู่ในรถเมล์ไปเกือบทั้งวันเลย เวลาบางส่วนหมดไปกับการเดินเพื่อย้ายตำแหน่ง ทั้งจากป้ายรถเมล์ไปยังสถานที่เป้าหมาย และการเดินออกจากสถานที่เิิดิมไปยังพื้นที่ี่ที่มีรถเมล์สายที่ต้องการผ่านมาจอด แม้ว่าวันนี้จะมีเมฆมาก แดดไม่ค่อยมี แต่อากาศก็อบอ้าวสมควร แม้นั่งอยู่เฉยๆเหงื่อก็ไหลออกมาเองเลยทีเดียว ถ้าไม่มีลมพัดมาเป็นระยะๆด้วยหละก็ เราอาจจะเป็นลมไปหลายรอบแล้วก็เป็นได้
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยทุกเย็น บางวันก็เมฆครึ้มมาตั้งแต่กลางวัน แล้วก้มาลงปรอยๆช่วงเย็น ทำให้เล่นแบดได้ไม่นานมากนัก คนเล่นก็ลดจำนวนลงไปบ้าง เริ่มแผ่วๆลงไปละ จะทำยังไงต่อดีนะ ไม่เป็นไร ปล่อยไปก่อนละกัน อะไรทำได้ก็ทำ
วันนี้ดทรหาพี่อ้อยจากเขตตลิ่งชัน เกี่ยวกับสายพลาสติกที่ฝากซื้อเอาไว้ ซึ่งได้เรื่องว่า วันนี้พี่ซึ่งทางธนเหนือจะมาทำข้อมูลที่นิด้า เดี๋ยวแกจะถือติดมือมาด้วย ก็นับไว้โปรเจคตัวนี้เดินหน้าได้ค่อนข้างไวเลยทีเดียว แต่ก็ย่างว่าหละนะ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรง่าย บางพรุ่งนี้แกอาจจะไม่ได้เามาด้วย อาจจะลืมหยิบมา อาจจะไม่ว่างไปซื้อมา อาจจะติดงานไม่ได้มา ... และเอามาแล้ว ได้สายมาแล้ว เด็กๆอาจจะไม่ทำด้วย คนในชุมชนอาจจะไม่สนใจไม่ร่วมด้วย ..เ้ฮ้อ.... ก็ช่างเถอะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทำใจเผื่อผิดหวังไว้ก่อน จะได้ไม่เจ็บมาก แล้วก็ทำต่อไปเท่าที่จะทำได้ แค่รู้ว่าเราทำเพื่อใคร แค่รู้ว่าเราทำเพื่ออะไร เราเข้าใจ ถึงคนอื่นในชุมชนไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ... ชีวิตก็อย่างนี้หละ ผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดา ช่างมัน
2555-07-31
2555-07-27
550727 สับสน
วันก่อน ได้ไปร่วมเวทีสวัสดิการระดับจังหวัดมา ที่ พอช. ก็ไปช่วยงานกองเลขาเหมือนเคย นี่ไม่ได้บ่นนะ ดีใจต่างหาก ที่รุ่นพี่ทั้งหลายยังไม่ลืมเรา ยังเหมือนความสามารถเห็นความสำคัญของเราอยู่ 555 ถึงจะให้เราไปทำในบทบาทหน้าที่อื่น เช่น วิทยากร พิธีกร หรืออะไรนอกเหนือจากนี้ เราก็ยังทำไม่ได้หรอก ประมาณว่า รู้ความสามารถของตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าไปได้แค่ไหน
แต่ว่าเวทีนี้นั้น มันก็เป็นเรื่องของ"ภาคประชาชน" ที่ลุกขึ้นมาทำงานกันเอง ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวของกับสภาองค์กรชุมชนระดับจังหวัดเหมือนกัน และผู้เข้าร่วมงานนั้น หลายๆท่านก็เป็นคนในขบวนสภา ไม่สิ ต้องเรียกว่าส่วนใหญ่ก็เป็นคนในขบวนสภาเลยดีกว่า
ดังนั้นเราก็เลยไม่รู้ว่า เรื่องวทีในวันนี้ ควรจะนำเป็นเขียนเป็นข่าวไว้ในเว็บไซต์ของสภาด้วยหรือเปล่า เอ... จะว่าไปแล้ว เรื่องเว็บไซต์ที่ทำอยู่ก็มีเรื่องค้างใจเราอยู่เหมือนกันนี่นะ เพราะทุกวันนี้ เรื่องการจะเอาเรื่องราวต่างๆลงเว็บไซต์นั้น สรุปว่าจะเอายังไงกันแน่เราก็ยังไม่รู้เลย ไอ้จะปล่อยให้ทุกเขตปั่นข้อมูลลงเว็บไซต์ไปอย่างเดียวก็ใช่ที แค่การที่จะให้ใครมาเป็นหลักเพื่อดูข้อมูลก่อนลงเว็บนั้น ในทางปฏิบัติก็ไม่สามารถทำได้ พอผู้ใหญ่ เอ้ย...รุ่นพี่ แต่ละท่าน พอคุยถึงเว็บไซต์ คุยไปคุยมาก็ดูเหมือนว่าเป็นแค่งานฝากที่ต้องทำให้เสร็จ สำหรับบางท่านก็เหมือนจะเข้าใจถึงความสำคัญ แต่ก็จะติดปัญหาอุปสรรคด้านอื่นไปเสีย หรืบางทีเขาก็คุยในเรื่องที่เราฟังไม่เข้าใจเลย
ก็ต้องยอมรับหละว่า บ้างครั้งบา้งเรื่องที่รุ่นพี่คุยกันนั้น เราไม่เข้าใจเลย แต่ในขณะเดียวกันนั้น รุ่ีนพี่คนอื่นๆสามารถสื่อสารรับสารกันได้อย่างไม่มีปัญหา บางครั้งบางท่านฟังแล้วเอาไปอธิบายต่อเอาไปทำต่อแบบคนละทิศคนละทางเลยก็มี แต่สุดท้ายผลลัพธ์มันได้ มันใช่อย่างที่พวกเขาต้องการแต่แรก ซึ่งก็ทำให้เรารู้สึกแปลกใจพอสมควร ก็คงเป็นเพราะเรายังเรียนรุ้อะไรมาไม่เพียงพอ
เป็นผลให้ในช่วงการทำงานระยะหลังๆมานี้ ทำให้เรานิ่งและเงียบมากขึ้น เพื่อที่จะฟังและสังเกตการทำงานของรุ่นพี่แต่ละท่านทุกท่านให้มากขึ้นกว่านี้ (แต่บางทีก็ยังหลุดพูดโพล่งออกไปอยู่บ้าง 555 ต้องปรับปรุงนิสัยตัวเอง)
แต่ว่าเวทีนี้นั้น มันก็เป็นเรื่องของ"ภาคประชาชน" ที่ลุกขึ้นมาทำงานกันเอง ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวของกับสภาองค์กรชุมชนระดับจังหวัดเหมือนกัน และผู้เข้าร่วมงานนั้น หลายๆท่านก็เป็นคนในขบวนสภา ไม่สิ ต้องเรียกว่าส่วนใหญ่ก็เป็นคนในขบวนสภาเลยดีกว่า
ดังนั้นเราก็เลยไม่รู้ว่า เรื่องวทีในวันนี้ ควรจะนำเป็นเขียนเป็นข่าวไว้ในเว็บไซต์ของสภาด้วยหรือเปล่า เอ... จะว่าไปแล้ว เรื่องเว็บไซต์ที่ทำอยู่ก็มีเรื่องค้างใจเราอยู่เหมือนกันนี่นะ เพราะทุกวันนี้ เรื่องการจะเอาเรื่องราวต่างๆลงเว็บไซต์นั้น สรุปว่าจะเอายังไงกันแน่เราก็ยังไม่รู้เลย ไอ้จะปล่อยให้ทุกเขตปั่นข้อมูลลงเว็บไซต์ไปอย่างเดียวก็ใช่ที แค่การที่จะให้ใครมาเป็นหลักเพื่อดูข้อมูลก่อนลงเว็บนั้น ในทางปฏิบัติก็ไม่สามารถทำได้ พอผู้ใหญ่ เอ้ย...รุ่นพี่ แต่ละท่าน พอคุยถึงเว็บไซต์ คุยไปคุยมาก็ดูเหมือนว่าเป็นแค่งานฝากที่ต้องทำให้เสร็จ สำหรับบางท่านก็เหมือนจะเข้าใจถึงความสำคัญ แต่ก็จะติดปัญหาอุปสรรคด้านอื่นไปเสีย หรืบางทีเขาก็คุยในเรื่องที่เราฟังไม่เข้าใจเลย
ก็ต้องยอมรับหละว่า บ้างครั้งบา้งเรื่องที่รุ่นพี่คุยกันนั้น เราไม่เข้าใจเลย แต่ในขณะเดียวกันนั้น รุ่ีนพี่คนอื่นๆสามารถสื่อสารรับสารกันได้อย่างไม่มีปัญหา บางครั้งบางท่านฟังแล้วเอาไปอธิบายต่อเอาไปทำต่อแบบคนละทิศคนละทางเลยก็มี แต่สุดท้ายผลลัพธ์มันได้ มันใช่อย่างที่พวกเขาต้องการแต่แรก ซึ่งก็ทำให้เรารู้สึกแปลกใจพอสมควร ก็คงเป็นเพราะเรายังเรียนรุ้อะไรมาไม่เพียงพอ
เป็นผลให้ในช่วงการทำงานระยะหลังๆมานี้ ทำให้เรานิ่งและเงียบมากขึ้น เพื่อที่จะฟังและสังเกตการทำงานของรุ่นพี่แต่ละท่านทุกท่านให้มากขึ้นกว่านี้ (แต่บางทีก็ยังหลุดพูดโพล่งออกไปอยู่บ้าง 555 ต้องปรับปรุงนิสัยตัวเอง)
2555-07-23
550723 จากสมุดบันทึกรายชื่อ
ไปชวนคนในชุมชนเล่นแบดทุกเย็น ก็พยายามหาเวลาเพื่อที่จะทำให้ได้ทุกเย็นตามที่ตั้งใจไว้ ใครมาเล่นแบดกับเราบ้างก็ขอจดรายชื่อไว้ 2-3 วันแรกก๋มีแต่เด็กๆ พอหลายๆวันเข้า ก็มีผู้ปกครองของเด็กๆมาเล่นด้วยบ้าง
แม้ว่าปัจจุบันนี้ จำนวนผู้ที่มาเล่นแบดในแต่ละวันจะเริ่มหยุดอยู่ที่ประมาณ 10 คนต่อวัน ด้วยข้อจำกัดทั้งสถานที่ อุปกรณ์ และแรงจูงใจต่างๆ
แต่จำนวนยอดรายชื่ิอของผู้ที่เล่นแบดกับเรานั้นก็ค่อยมีมาเพิ่มขึ้นใหม่เกือบทุกวัน ซึ่งขณะนี้นับยอดรายชื่อไว้คร่าวๆไำด้ 28 คนแล้ว แม้ว่าบางคนนั้นก็แวะมาเล่นด้วยบางครั้งบางคราวเท่านั้น แต่บางคนก็มาบ่อยจนเป็นขาประจำไปเสียแล้ว
ตอนนี้เรามีสมุดบันทึก (((รายชื่อผู้เล่น))) มี(((วันที่ลงเล่น))) และ(((รายชื่อผู้เข้าร่วมเล่นในแต่ละวัน))) จากนี้เราจะต่อยอดออกไปยังไงกันดี
2555-07-20
550720 บ่นอะไรเรื่อยเปื่อย
เกือบ 1 อาทิตย์แล้วที่เราได้ออกไปชวนเด็กๆและคนในชุมชนเล่นแบดอีกครั้ง จุดประสงค์หลักคือการกระตุ้นให้คนกลับมาเล่นกีฬากันเพิ่มขึ้นอีก สำหรับปีก่อนๆที่ผ่านมาแล้วนั้น เราได้สร้างเป้าหมายให้กับเด็กๆโดยการจัดการแข่งขันแบดในชุมชนขึ้น ซึ่งได้ทำติดต่อมา 2 ปี การแข่งขันครั้งแรก ช่วงเดือนมีนาคม 2553 และครั้งที่ 2 ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2554
แต่สำหรับปี 2555 นี้นั้น เราไม่สามารถจัดแข่งขันขึ้นมาได้ ด้วยสาเหตุหลายประการ ไม่ว่าปัญหาเรื่องงาน ปัญหาส่วนตัว และปัญหากับคนในชุมชนบางกลุ่ม ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องราวปัญหาที่ต่อเนื่องมานานแล้ว และปัญหาสำคัญที่สุด ที่ส่งผลให้เราจัดการแข่งกันในปีนี้ไม่ได้ คือ การที่คนส่วนใหญ่ในชุมชนไม่ใส่ใจไม่เห็นความสำคัญของเด็กๆเลยแม้แต่น้อย
สำหรับชุมชนนี้ เราก็ได้อยู่ได้อาศัยมาเกือบ 20 ปีเลยทีเดียว พบเห็นอะไรมาก็ไม่น้อยเลย ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่สนใจแต่การมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ถ้าไม่คิดเรื่องทำมาหาเงิน ก็จะรวมกลุ่มกันสรวลเสเฮฮาหาความสุขเท่านั้น
ในขณะที่ส่วนน้อยนั้น ก็มีผู้นำบางคนที่มีความเสียสละ ได้อาสาออกมาทำงานเพื่อพัฒนาชุมชนของตัวเอง พัฒนา"บ้าน"ของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่การพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้นก็ตามที แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีใครเลย
และเมื่อวันเวลาผ่านเลยไป ผู้นำชุมชนหลายๆคนนั้นก็ค่อยลดหายลงไปทีละคนสองคน ด้วยถึงวันสิ้นอายุขัยบ้าง เจ็บป่วยไม่สบายสุขภาพไม่เอื้ออำนวบบ้าง บางคนก็จำต้องอพยพโยกย้ายที่อยู่อาศัยออกไปจากชุมชน จนทุกวันนี้นั้น ในชุมชนก็เหลือผู้นำจริงๆแค่ไม่กี่คนเท่านั้น จำนวนผลงานต่างๆก็ลดน้อยถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะเดียวกันนั้น ในชุมชนก็ไม่ได้มีผู้นำรุ่นใหม่ขึ้นมาสานงานต่อเลยแม้แต่น้อย จะมีก็แต่ผู้ที่ขึ้นมาเพราะอยากจะได้ อยากจะเป็น อยากมีตำแหน่ง อยากมีอำนาจ แต่ไม่มีใครเลยที่"อยากจะทำงาน" หรือ "อยากที่จะพัฒนาชุมชน"ของตัวเองจริงๆเลย ซึ่งเราก็ดูได้ไม่ยากนักหรอก ลองถามดูสิว่า "เขาจะทำอะไร" หรือ "เขามีแผนพัฒนาชุมชนอะไร" คำตอบจากคนที่ไม่ได้คิดที่จะพัฒนาชุมชนจริงๆเหล่านี้จะคำตอบอยู่แค่ 2 แนว คือ "ไม่มีเวลา" และ "ไม่มีงบประมาณ"
ฟังแล้วรู้สึกเหนื่อยใจกับคนพวกนี้จังเลย ขอโทษเถอะ จริงๆเราอยากรู้ว่าพวกท่านกำลังจะทำอะไรหรือมีแผนที่จะทำอะไร แล้วเราค่อยมาหาทางทำงานร่วมกัน แต่ใจคอพวกท่านนี้จะทำอะไรนิดๆหน่อยๆก็ต้งมีงบประมาณตลอด ไม่มีเงินก็ไม่มีเวลาให้ เพราะเสียเวลาทำมาหากินสินะ อยากจะถามจริงๆเลยกับพวกที่เสนอหน้าเข้ามาทำงานชุมชนเนี่ย ว่า"ถ้าพวกคุณคิดจะทำมาหากิน เราเสนอหน้าออกมาทำงานชุมชนทำพระแสงอันใด(วะ)ครับ" หรือคิดว่าการที่เสนอหน้าออกมาทำงานชุมชนแล้ว ท่านจะได้งบนั้นงบนี้มาให้พวกท่านจับจ่ายใช้สอยกันเล่นอย่างสบายมือเลยสินะ เหอะ!!! ขอโทษเถอะ งานของตัวเอง จะคิดจะทำอะไรบ้างยังตอบไม่ได้ แล้วใครที่ไหนจะหาการสนับสนุนมาให้พวกท่านได้หละ(วะ)ครับ
นี่ขนาดคนที่อาสาขึ้นมารับตำแหน่งที่ต้องทำงานชุมชนในปัจจุบันนี้ยังเป็นซะขนาดนี้ คงไม่ต้องเอ่ยถึงเหล่าชาวบ้านตาสีตาสาในชุมชนหรอกมั้งครับ ว่าพวกเขาเหล่านั้น คิดใส่ใจแต่"ตนเอง" "ตัวเอง" แค่ไหน คิดแต่จะ"ทำมาหาเงิน" อย่างไร แต่เอาแต่ "หาความสุขใส่ตัว" ประมาณไหน ฉะนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาใครที่จะใส่ใจต่อคนอื่นบ้าง จะคุยกับใครที่ใส่ใจชุมชนบ้าง น้อยมาก จะมีก็แต่ผู้นำชุมชนรุ่นเก่าๆเพียงไม่กี่ท่านเท่านั้น ที่พอจะคุย"ภาษาเดียวกัน"ได้รู้เรื่อง เหนื่อยครับ เหนื่อยมาก....555
ครับ ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น แค่การที่จะให้คนในชุมชน มองดูชุมชนของตัวเองในปัจจุบันยังยากเลย นับประสาอะไรจะให้พวกเรามองชุมชนของเขาในอนาคตได้ โดยเฉพาะพวกเด็กๆที่อยู่ในชุมชนนั้นยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ดังนั้น การจัดงานหรือจัดกิจกรรมต่างๆให้เด็กในชุมชนที่ผ่านมานั้น แล้วไม่้มีใครมาสนใจ ไม่มีใครมาใส่ใจช่วยเลยนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยเลย
แต่สิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในชุมชนนี้ คือการได้ทำให้เด็กได้เล่น ได้สนุก ได้แสดงออก ได้แสดงความสามารถได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น สิ่งที่ผมทำคือ การพยายามเข้าไปชักชวนให้เด็กๆ ได้เล่น ได้แสดงออกในสิ่งที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต และสร้างตัวกระตุ้นหรือเป้าหมายให้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ดำเนินการต่อไปเองโดยผมไม่ต้องไปนำทุกครั้งทุกวันอยู่อย่างนี้
แต่จะมีใครเข้าใจบ้างหละน้อ
แต่สิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นในชุมชนนี้ คือการได้ทำให้เด็กได้เล่น ได้สนุก ได้แสดงออก ได้แสดงความสามารถได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น สิ่งที่ผมทำคือ การพยายามเข้าไปชักชวนให้เด็กๆ ได้เล่น ได้แสดงออกในสิ่งที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต และสร้างตัวกระตุ้นหรือเป้าหมายให้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ดำเนินการต่อไปเองโดยผมไม่ต้องไปนำทุกครั้งทุกวันอยู่อย่างนี้
แต่จะมีใครเข้าใจบ้างหละน้อ
2555-07-19
2555-07-16
550716 อินเตอร์เน็ตมาถึงแล้ว
เย็นวันนี้ ณ สำนักงานสหกรณ์ ชุมชนสามัคคีพัฒนา เจ้าหน้าที่ได้มาติดอินเตอร์เน็ตแล้ว แต่ "ห้องสมุด" ปิดไปแล้ว น่าเสียดาย.... น่าเสียดาย....
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)